ฟักทอง พืชสีเหลือที่ต้มหรือนึ่งแล้วจะหวานอร่อยหลายคนเคยเห็น เคยกิน แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมคุณปู่คุณย่านั้นชอบให้เด้กอ่อนกินฟักทอง
นอกจากฝักทองจะนิ่มและทานง่ายแล้วยังมีสรรพคุณมากมาย เรียกว่ารอบด้านเลยก็ว่าได้ แบบนี้อยากรู้แล้วใช่มั้ยคะว่าจะมีประโยชน์อย่างที่บอกจริงๆรึเปล่า ไปดูกันเลยค่ะ
ฟักทอง เป็นพืชชนิดหนึ่ง ใช้ทำได้ทั้งอาหารคาว ของหวาน และเป็นอาหารว่างได้ด้วย ปกติฟักทองเมื่อแก่จัดจะมีสีเหลืองอมส้ม เป็นพืชมีเถา ปลูกได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขตหนาว ในทางพฤกษศาสตร์ จัดอยู่ในสกุล Cucurbita วงศ์ Cucurbitaceae เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา และแพร่กระจายไปทั่วโลก
ถือเป็นพืชในตระกูลมะระ ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะแล้วจะมีสีเขียวสลับเหลือง ผิวไม่เรียบขรุขระเปลือกมีลักษณะแข็งเนื้อในสีเหลือง มีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลืองนิ่มพร้อมกับเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่ ประโยชน์ของฟักทองนั้นมีมากมาย สามารถนำมาใช้กินบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้ดี และการกินฟักทองนึ่ง เพียงวันละ 2 ชิ้น ช่วยบำรุงตับ ไต และชะลอความแก่ได้ค่ะ
1. สามรถควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ
2.ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัย ต้านความแก่ชรา
3.ฟักทองมีกรดโปรไพโอนิค ซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
4. ฟักทองมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
5.ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นซึ่งจะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
6. ในฟักทองมีคอลลาเจนตามธรรมชาติ จึงช่วยเสริมสร้าง คอลาเจนใต้ผิวหนังช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส
7.สามรถกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
8.ป้องกันการเกิดนิ่ว เพราะในฟักทองมีสารคิวเคอร์บิติน มีฤทธิ์ช่วยช่วยขับปัสสาวะ สามารถป้องกันการเกิดโรคนิ่วได้
9.ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น
10.ฟักทองให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะแก่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
เป็นยังไงกันบ้างหละคะมีประโยชน์รอบด้านอย่างที่บอกมั้ย แต่ทุกอย่างอยู่ที่ปริมาณในการทานนะคะอย่าทานมากเกินไปเพราะจากประโยชน์จะกลายเป็นโทษได้ อย่างเช่นฟักทอง ถ้ากินมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง เพราะฉะนั้นควรกินแต่พอดีนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน